Last day in Amsterdam-Schiphol Airport-Abu Dhabi Airport-Bangkok

14 November 2015
ผ่านเรื่องตื่นเต้นมาตลอด 3 วันจาก Paris เมื่อคืนทุกคนนอนหลับกันเต็มอิ่ม ตื่นมาสดชื่นกันทุกคน กิน buffet อาหารเช้าที่โรงแรมคนละ  7.9 Euro ก่อนออกเดินทางด้วยรถไฟ เพื่อเข้าไปซื้อของในเมือง Amsterdam
เพื่อนเป็นเก๊ายังเดินไปไหนไม่ได้ ต้องนอนพักอยู่โรงแรมอีกวัน
กินอาหารเสร็จก็ check out เลย
ซื้อพวกกุญแจ เป็นของฝาก อันละ 2.90 Euro ขายอยู่ที่หน้า Hotel Reception
หลังจาก check out แล้วก็นำกระเป๋าไปฝากไว้ที่ห้องฝากกระเป๋าที่เดิม จะไปเดินในเมืองซื้อของก่อนแล้ว กลับมาเก็บของใส่กระเป๋าอีกที
เมื่อคืน Samuel หนุ่ม hotel staff หน้าตาใจดี ทำเอาพวกตกใจ หลังจากมีสัญญาณ emergency ในห้องเราไปดังเตือนที่ counter reception โดยที่ห้องเราไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย แล้ว Samuel ต้องรีบขึ้นมาบอกให้เราปิดสัญญาณ
เนื่องจากห้องน้ำของเราเป็นแบบให้ handicap สามารถใช้ได้ และมีสายสัญญาณโยงรอบห้องน้ำ สูงกว่าพื้นประมาณ คืบกว่าๆ  เผื่อว่าแขกผู้มาพัก เกิดล้มแล้วลุกไม่ได้ และต้องการความช่วยเหลือด่วน ก็สามารถ ดึงเชือกที่โยงอยู่ได้ทันที แต่เมื่อคืน เราทำขวด shampoo ตกใส่สายนี้ มันก็เลยไปดังขอความช่วยเหลือ ทำเอาตกใจหมดเลย!!!! บางคนก็คิดไปว่าเหมือนราวตากกางเกงชั้นในรึป่าวนะ
จาก Meininger Hotel เดินไปที่สถานนีรถไฟ ประมาณ 150 เมตร นั่งรถไฟไปประมาณไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึงในเมือง ราคาตั๋วรถไฟคนละ 5.40 Euro
ระหว่างรอรถไฟ ถ้ามีลมแรง ก็มีมุมให้นั่งหลบลมด้วย
Old town Hall เมือง Amsterdam
วัดแบบ Gothic สร้างปี ค.ศ. 1385 แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นวัดแล้ว แต่เปิดเป็น exhibition hall และมีเก็บค่าเข้าชมด้วย แล้วแต่ว่าจะจัดงานอะไร
ด้านหลังคือ พิพิธภัณฑ์ Madam Tussaud
ตึกด้านหลังคือ Magna Plaza Shopping Centre
ยืนรอ tram ราคาตั๋วคนละ 2.9 Euro
Van Gogh Museum ก็อยู่ไม่ไกล เดินไปสัก 200-300 เมตร มีคนมาเข้าแถวเพื่อรอเข้าไปชมงานศิลปกันมาก พวกเราไม่ได้เข้าไปชม เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายเรามีเวลาไม่มากนัก

ตัวอักษรขนาดใหญ่ I amsterdam อันนี้อยู่ด้านหลังของ Rijksmuseum ใน Amsterdam
 เสียของรักไปที่ Paris เลยขอมาตามหาของรักของชอบอีกครั้งที่ Amsterdam
จัดการจ่ายเงิน นำถุงมาคล้องแขน ด้วยความยินดี ยิ้มแก้มบานอีกครั้ง เสร็จแล้วเราก็เดินไปหาซื้อขนม Dutch Syrup Waffles ที่ร้านนี้
ซื้อ Baby Bola, Natural cow cheese ราคา 10.95 Euro อร่อย ไม่มีกลิ่นแรง ไม่มีรา อุ๊และชัยยืนอยู่หน้า Cashier  กำลังจะจ่ายเงิน
แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น  (อีกแล้ว) ระหว่างที่ยืนถ่ายรูปหน้าร้านขนม มีคนผิวดำเดินมาตามถนนทางด้านขวา เหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป เดินมาประมาณ 4-5 คน แต่สายตาพวกเค้าก็จับต้องอยู่ที่ถุง LV จนต้องบอกให้เพื่อนเดินเข้าไปยืนที่หน้า Cashier ในร้านขนม ไม่ให้เดินไปไหน พวกเราทุกคนก็เข้าไปยืนอยู่ตรงนั้นทั้งหมด คนผิวดำก็ยังเดินตามเข้ามาในร้าน ทำทีว่ามาดูของในร้าน แต่สายตาก็ยังมองไปที่ถุง LV  แล้วพวกเค้าก็ค่อยๆ เดินออกไป ซึ่งมีเพื่อน 2-3 คนยืนรออยู่ข้างนอก  พอได้จังหวะที่คนกลุ่มนั้นหันหลังไป พวกเราก็รีบเดินและวิ่งอย่างเร็วออกจากร้าน ตรงไปที่สถานีรถไฟ เพื่อกลับไปที่โรงแรมทันที ทุกคนมีถุงขนม Waffles อยู่ในมือทั้งสองข้าง ใน 1 ถุง shopping bag จะมี ขนมอยู่ 2 แพค ตามรูป และขนมนี้มันมีน้ำหนัก หนักมากจริงๆ แต่ก็วิ่งกันตัวปลิวลืมหนักไปเลย ถึงโรงแรมด้วยความปลอดภัย ของอยู่ครบ😂
ซื้อ L'oreal ได้ 1 กล่อง
ดินสอเขียนคิ้ว 2 แท่งๆ ละ 5.95 Euro

ระยะทางขับรถจาก Hotel Meininger to Schiphol Airport 15 กม ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
 คนป่วยต้องนั่งรถเข็ญจาก counter check in ไปถึงเครื่องบิน เพื่อนที่ กท มีเมตตาช่วยจัดการขอให้
นั่งกิน McDonald ที่ Schiphol Airport จ่ายไป 37.45 Euro คนป่วยอาการยังดีอยู่ ทำหน้าระรื่น เวลา shopping ก็เดินตัวปลิวได้
ทุกคนพร้อมจะเดินทางกลับบ้านแล้ว
ซื้อกระเป๋า Longchamp ได้ที่ Schiphol Airport เพื่อนฝากซื้อ 3 ใบๆ ละ  76 Euro สึฟ้า 1 ใบ 66 Euro
ที่ Abu Dhabi Airport นั่งรอเวลาบินต่อไปกรุงเทพ
บนเครื่องบิน กลับกรุงเทพ
รายการของที่ซื้อกลับมา
ซื้อที่ Paris ร้านยาใกล้ๆ ที่พัก
Kipling 59.90 Euro
Kipling ใบละ 74.90 Euro
 Kipling ใบละ 59.90 Euro
Hedgren กระเป๋าสีดำ ใบละ 99.00 Euro
ร้านขายของที่ระลึกใน Notre Dame
สายประคำจาก Notre Dame de Paris 12 Euro
Trip นี้ จ่ายไปคนละ 64,930.00 (ไม่รวมของซื้อส่วนตัว)
กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ เต็มไปด้วยความสนุกสนานทุกนาที แม้จะมีเหตุการณ์ระทึกขวัญเข้ามาแทรกเป็นระยะๆ ตลอดการเดินทาง และแถมมีหลานชายสุดที่รักมารับที่สุวรรณภูมิอีก Home sweet home 
___________________________________